การแข่งขันระหว่างทีมชาติ เวลส์ และ เบลเยียม ในรอบคัดเลือกบอลโลกเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่บันไดเตะต่างรอคอย ด้วยการเผชิญหน้าของสองทีมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นคุณภาพ ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ เบลเยียมสามารถปราบ เวลส์ ได้ด้วยสกอร์ 4-2 ที่สนามของกลุ่มผู้ชมที่แน่นขนัด
การแสดงความสามารถในการเล่นที่น่าทึ่งที่สุดในครั้งนี้ไม่ได้หนีพ้นจากสายตาของทุกคน โดยเฉพาะกับ เควิน เดอ บรอยน์ ที่ได้ทำการ ยิงเบิ้ล และเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เบลเยียมสามารถเก็บสามแต้มสำคัญและนำฝูงของกลุ่มในรอบคัดเลือกบอลโลกครั้งนี้
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีเบลเยียมเปิดเกมรุกและสามารถทำประตูแรกได้ในช่วงเวลาที่ไม่ถึง 15 นาทีแรก นี่เป็นการเริ่มต้นที่ทำให้ฝ่ายคู่ต่อสู้ต้องเริ่มปรับแผนการเพื่อรับมือกับการบุกทะเลาะของเบลเยียม ส่วนทีมชาติเวลส์ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แต่ละท่านที่สนามต้องยอมรับในความสามารถในการอ่านเกมและการยิงเบิ้ลที่ทำสำเร็จในครึ่งแรกของ เดอ บรอยน์ อย่างแท้จริง
ถึงแม้เวลส์จะพยายามปรับกลยุทธ์และมุ่งมั่นที่จะทำสกอร์ให้ได้ ก็ยังคงไม่สามารถต้านทานพลังและทักษะของทีมชาติเบลเยียมที่ครองเกมอยู่ตลอดเวลา ทีมชาติ
เวลส์พยายามทำประตูสองครั้งในช่วงครึ่งหลัง แต่สองประตูนั้นยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขากลับมาสู่เกมได้ ครึ่งหลังเป็นการช่วงเวลาที่ท้าทายที่ทำให้ต้องปฏิเสธกับการกลับมาของทีมชาติเวลส์ที่จบลงด้วยความพ่ายแพ้
ผลในการแข่งขันนี้ทำให้เบลเยียมยังคงเดินหน้าในฐานะทีมผู้นำในกลุ่ม นำเสนอประสบการณ์และความสามารถในระดับสากลซึ่งทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมที่ได้รับการยอมรับในเวทีของบอลโลกรอบคัดเลือก ด้านทีมชาติ เวลส์ แม้จะพ่ายแพ้ แต่ก็ยังคงมีความหวังต้องใช้ความพยายามและทำงานหนักเพิ่มขึ้น ซึ่งการเรียนรู้จากการแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นบทเรียนที่มีค่าในการปรับกลยุทธ์ต่อไป
การแข่งขันครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของทีมเบลเยียมและบทบาทที่สำคัญของ เดอ บรอยน์ ในการขับเคลื่อนทีม การแสดงฝีมือที่น่าประทับใจของเขามีผลทำให้เบลเยียมสามารถคว้าชัยชนะในช่วงสถานการณ์ที่กระชั้นชิด ทีมชาติทั้งสองมีเส้นทางที่ต้องทำงานร่วมกันอีกมาก ทั้งนี้สำหรับเบลเยียม การรักษาระดับการแข่งขันที่ยั่งยืนยังคงเป็นเป้าหมายหลัก ในขณะที่เวลส์จะต้องกลับมาทบทวนกลยุทธ์ของตนเพื่อต่อสู้ในอีกแมตช์ที่เหลือในบอลโลกรอบคัดเลือกต่อไป